ชื่อ เจ้า หญิง ดิสนีย์ ทั้งหมด

ชื่อ เจ้า หญิง ดิสนีย์ ทั้งหมด สวัสดีครับเพื่อนๆ ที่เป็นแฟน Disney Princess คงจะคุ้นเคยกับเจ้าหญิงทั้ง 14 กันดี แต่ที่ผ่านๆ ตากันมา คงเคยเห็นแต่แบบ 2D หรือเวอร์ชั่นเดิมใช่มั้ยครับ วันนี้จะพาไปดูเจ้าหญิงดิสนีย์ทั้ง 14 ในรูปแบบเก่าและแบบ 3D กันครับ ไปดูกันว่าจะหน้าตายังไงกันบ้างนะ

1. สโนว์ไวท์ จาก สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด (Snow White and the Seven Dwarfs) ชื่อ เจ้า หญิง ดิสนีย์ ทั้งหมด

ชื่อ เจ้า หญิง ดิสนีย์ ทั้งหมด สโนว์ไวต์ หรือ เจ้าหญิงหิมะขาว (เยอรมัน: Schneewittchen; Schneeweißchen, อังกฤษ: Snow White) เป็นชื่อของเทพนิยายอันโด่งดังในยุโรป และเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก รวมไปถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน เทพนิยายเรื่องนี้ตั้งชื่อขึ้นตามตัวเอกของเรื่อง โดยดังเดิมเป็นนิทานพื้นบ้านของยุโรป ได้รับการเล่าขานกันมาต่าง ๆ กัน แต่เทพนิยายเรื่องสโนว์ไวต์ที่เรารู้จักกันดีที่สุด มาจากบทประพันธ์ในภาษาเยอรมันของ พี่น้องตระกูลกริมม์ โดยพี่น้องตระกูลกริมม์ได้เพิ่มตัวละครส่วนประกอบที่ทำให้เรื่องราวน่าสนใจยิ่งขึ้น อาทิ กระจกวิเศษ และ คนแคระทั้งเจ็ด เป็นต้น ต่อมาเมื่อปี ค.ศ. 1937 ทางดิสนีย์ได้ดัดแปลงเทพนิยายเรื่องนี้ในรูปแบบภาพยนตร์การ์ตูน โดยใช้ชื่อว่า สโนว์ไวต์กับคนแคระทั้งเจ็ด เหตุที่ทางดิสนีย์เลือกใช้ชื่อนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนกับเทพนิยายของพี่น้องตระกูลกริมม์ เรื่องสโนว์ไวต์กับดอกกุหลาบแดง โดยในการเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง สโนว์ไวต์กับคนแคระทั้งเจ็ด เป็นครั้งแรกที่มีการตั้งชื่อให้แก่คนแคระทั้งเจ็ด

รายชื่อเจ้าหญิงดิสนีย์ เทพนิยายเรื่องสโนว์ไวต์ในภาษาอื่น ๆ มีบทบาทที่แตกต่างกัน เช่น ในบางชาติได้แต่งบทให้คนแคระทั้งเจ็ดเป็นโจร หรือให้ราชินีพูดคุยกับดวงอาทิตย์ หรือดวงจันทร์ แทนกระจกวิเศษ เป็นต้น ในบทประพันธ์ฉบับอัลบาเนีย รวบรวมโดย โยฮันน์ จอร์จ ฟอน ฮาห์น และตีพิมพ์เป็นภาษากรีก และภาษาอัลบาเนีย เมื่อปี ค.ศ. 1864 สโนว์ไวต์อาศัยอยู่กับมังกร 40 ตัว และสโนว์ไวต์หลับไปเพราะใส่แหวนที่ต้องมนต์สะกด ด้วยเหตุนี้ เรื่องสโนว์ไวต์จึงถูกจัดรวมอยู่ในกลุ่มเทพนิยายรหัส 709 ซึ่งเป็นเทพนิยายที่ตัวเอกของเรื่องหลับไปเพราะสวมแหวนทั้งสิ้น ส่วนต้นแบบของเรื่องสโนว์ไวต์ที่แท้จริงนั้นยังไม่สามารถหาของสรุปได้ แต่คาดว่าน่าจะเป็นเทพนิยายที่ถูกแต่งขึ้นในช่วงยุคกลาง (ราวคริสต์ศตวรรษที่ 11-14)

2. ซินเดอเรลล่า จาก ซินเดอเรลล่า (Cinderella)

ซินเดอเรลล่า (อังกฤษ: Cinderella; ฝรั่งเศส: Cendrillon) เป็นเทพนิยายปรัมปราที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงทั่วทั้งโลก มีการดัดแปลงเป็นรูปแบบต่าง ๆ มากมายกว่าพันครั้ง เนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กกำพร้าผู้หนึ่งที่อยู่ในอุปถัมภ์ของแม่เลี้ยงกับพี่สาวบุญธรรมสองคน แต่ถูกทารุณและใช้งานเยี่ยงทาส ต่อภายหลังจึงได้พบรักกับเจ้าเมืองหรือเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ ตำนานซินเดอเรลล่ามีปรากฏในเทพนิยายหรือนิทานพื้นบ้านประเทศต่าง ๆ ทั่วทั้งโลกโดยมีชื่อของตัวเอกแตกต่างกันออกไป ทว่าฉบับที่มีชื่อเสียงที่สุดเป็นของนักเขียนชาวฝรั่งเศสชื่อ ชาร์ล แปโร ในปี ค.ศ. 1697 ซึ่งอิงมาจากวรรณกรรมของ จิอัมบัตติสตา เบซิล เรื่อง La Gatta Cenerentola ในปี ค.ศ. 1634 ในเรื่องนี้ตัวเอกมีชื่อว่า เอลลา (Ella) แต่แม่เลี้ยงกับพี่สาวใจร้ายของเธอพากันเรียกเธอว่า ซินเดอเรลล่า (Cinderella) อันหมายถึง “เอลลาผู้มอมแมม” ซึ่งกลายเป็นชื่อเรียกเทพนิยายในโครงเรื่องนี้โดยทั่วไป

ซินเดอเรลล่า ได้รับการโหวตจากเด็ก ๆ กว่า 1,200 คนจากการสำรวจโดย cinema chain UCI เป็นเทพนิยายยอดนิยมอันดับหนึ่งในดวงใจ เมื่อปี ค.ศ. 2004 ผลสำรวจจากกูเกิล เทรนดส์ เมื่อปี ค.ศ. 2008 ก็พบว่า ซินเดอเรลล่า เป็นเทพนิยายที่ได้รับความนิยมและกล่าวถึงมากที่สุดในโลกอินเทอร์เน็ต

3. ออโรร่า จาก เจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty)

ออโรรามีต้นแบบมาจากเจ้าหญิงในเทพนิยาย ” เจ้าหญิงนิทรา ” ของชาร์ลส์เพอร์ราลต์เช่นเดียวกับนางเอกที่ปรากฏในการเล่าเรื่องของBrothers Grimmเรื่อง ” Little Briar Rose ” หลายปีที่ผ่านวอลท์ดิสนีย์ได้พยายามที่จะหานักแสดงที่เหมาะสมกับเสียงเจ้าหญิงและเกือบร้างภาพยนตร์ทั้งหมดจนกว่า Costa ถูกค้นพบโดยนักแต่งเพลงวอลเตอร์แมนน์ อย่างไรก็ตามสำเนียงทางใต้ของคอสตาเกือบทำให้เธอเสียบทบาทจนกว่าเธอจะพิสูจน์ได้ว่าเธอสามารถคงสำเนียงอังกฤษไว้ได้ตลอดระยะเวลาของภาพยนตร์เรื่องนี้ เพื่อรองรับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นรายละเอียดที่ไม่เคยมีพื้นหลัง, การออกแบบการกลั่นของออโรร่าเรียกร้องความพยายามมากขึ้นกว่าที่เคยใช้ในการเคลื่อนไหวตัวละครก่อนที่จะมีแอนิเมชั่วาดแรงบันดาลใจจากอาร์ตนูโว เคลื่อนไหวโดยมาร์คเดวิส , ออโรร่าร่างกายเรียวได้รับแรงบันดาลใจจากนักแสดงออเดรย์เฮปเบิร์ มีเพียง 18 สายของการสนทนาและการไม่กี่อย่างเท่าเทียมกันนาทีของเวลาหน้าจอตัวละครพูดน้อยกว่าตัวละครหลัก ๆ พูดในสารคดีความยาวภาพยนตร์การ์ตูนดิสนีย์

เมื่อเจ้าหญิงนิทราออกฉายครั้งแรกในปี 2502 ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความล้มเหลวทั้งในเชิงพาณิชย์และเชิงพาณิชย์ทำให้สตูดิโอไม่สามารถดัดแปลงนิทานเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นเป็นเวลาสามทศวรรษ ออโรร่าเองก็ได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบจากนักวิจารณ์ทั้งในภาพยนตร์และสตรีนิยมถึงความเฉยชาและความคล้ายคลึงกับสโนว์ไวท์และจะยังคงเป็นเจ้าหญิงคนสุดท้ายของดิสนีย์จนกว่าแอเรียลของThe Little Mermaidจะออกมาในอีก 30 ปีต่อมาในปี 1989 อย่างไรก็ตามการแสดงของคอสต้าได้รับการยกย่องซึ่งเป็นแรงบันดาลใจ เธอจะมีอาชีพเต็มเวลาในฐานะนักร้องโอเปร่าจนประสบความสำเร็จอย่างมาก ตามลำดับออโรราเป็นที่สามเจ้าหญิงดิสนีย์ นักแสดงหญิงยอดแอลแฟนนิง portrays รุ่นอยู่ที่การกระทำของออโรราในภาพยนตร์เรื่องMaleficent (2014) บอกเล่าของภาพยนตร์การ์ตูน 1959 เจ้าหญิงนิทราจากมุมมองของชื่อตัวละคร แฟนนิงกลับมารับบทออโรร่าในMaleficent: Mistress of Evil (2019) ซึ่งจะตั้งห้าปีต่อมา

4. แอเรียล จาก เงือกน้อยผจญภัย (The Little Mermaid)

แอเรียล the little mermaid เป็นตัวละครในนวนิยายและเป็นชื่อเรื่องของภาพยนตร์ภาพเคลื่อนไหวในลำดับที่ 28 ในปี 1989 แอเรียลมีสัญชาติเดนมาร์กและได้ปรากฏตัวบนจอภาพยนตร์ก่อนมีการนำขึ้นฉายบนจอทีวีและตามมาด้วยวีดิโอ เงือกน้อยผจญภัยภาค 2 ตอนวิมานรักใต้สมุทร เป็นการนำเอาลูกสาวของแอเรียลมาเป็นตัวละครหลักในการดำเนินเรื่องแทน และได้มีการนำมาทำเป็นวีดิโอให้ชมก่อนภาคแรกอีกด้วย เสียงของแอเรียลถูกพากย์โดย Jodi Benson อย่างเป็นทางการในทุกครั้งและทุกที่ที่มีการปรากฏตัวของเธอ แอเรียลเป็นเจ้าหญิงในลำดับที่ 4 ของเจ้าหญิงดิสนีย์และเป็นเจ้าหญิงองค์เดียวที่มีบทบาทของการเป็นแม่ของลูกตนเองอย่างแท้จริง แอเรียลมีลักษณะเฉพาะของตัวเองที่เด่นชัด เช่นผมยาวสีแดงที่ดูมีน้ำหนัก ตาสีฟ้า หางเงือกสีเขียว และชุดว่ายน้ำชิ้นส่วนบนของผู้หญิงที่เป็นรูปฝาหอยสีม่วง เรื่องราวในภาพยนตร์และจอทีวี แอเรียลเป็นลูกสาวคนที่ 7 ของราชาไทรทัน (Triton) และราชินีอาเธน่า (Athena) แห่งอาณาจักรใต้น้ำ เมอโฟร์ก (Merfolk) แอเรียลมีความดื้อรั้นอยู่ในตัวบ่อย ๆ เนื่องจากความอยากรู้อยากเห็นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของโลกมนุษย์ แอเรียลแต่งงานกับเจ้าชายเอริค (Eric) บุคคลที่เธอช่วยชีวิตไว้หลังจากเรือล่ม และทั้งคู่ก็ได้มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนชื่อเมโลดี้ (Melody) ตัวละครตัวนี้อ้างอิงมาจากตัวละครจากบทประพันธ์ “เงือกน้อยผจญภัย” “The Little Mermaid” ของ Hans Christian Andersen แต่ได้มีการถูกพัฒนาและเปลี่ยนแปลงลักษณะนิสัยเพื่อการสร้างภาพเคลื่อนไหวในปี 1989 แอเรียลได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ที่หลากหลาย บางสำนักพิมพ์เช่น Time ได้วิจารณ์แอเรียลว่าเธอได้ทุ่มเทมากเกินไปให้กับผู้ชาย ในขณะที่ สำนักพิมพ์ Empire ยกย่องในความดื้อรั้นและลักษณะนิสัยของเธอที่ไม่เหมือนเจ้าหญิงองค์อื่น ๆ ของดิสนีย์

5. เบลล์ จาก โฉมงามกับเจ้าชายอสูร (Beauty and the Beast)

โฉมงามกับเจ้าชายอสูร (ฝรั่งเศส: La Belle et la Bête) เป็นนิทานโบราณดั้งเดิม ฉบับแรกซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส ประพันธ์โดย มาดาม ใน พ.ศ. 2283 ฉบับที่มีชื่อเสียงที่สุด คือฉบับที่ได้รับการย่อเรื่องของมาดาม Villeneuve ใน พ.ศ. 2299 โดย มาดาม Jeanne-Marie Leprince de Beaumont ฉบับภาษาอังกฤษฉบับแรกได้ออกมาใน พ.ศ. 2300

หลากหลายฉบับของนิทานเรื่องโฉมงามกับเจ้าชายอสูร ได้เป็นที่รู้จักดีในยุโรป ยกตัวอย่าง ในประเทศฝรั่งเศส Zémire et Azor เป็นฉบับโอเปราของนิทานเรื่องนี้ ประพันธ์โดย Marmontel และจัดการบรรเลงโดย Grétry ใน พ.ศ. 2314 ฉบับโอเปรานี้ได้รับชื่อเสียงอย่างมากในศตวรรษที่ 19. ฉบับนี้เป็นฉบับที่ใช้โครงร่างของฉบับมาดาม Jeanne-Marie Leprince de Beaumont

6. จัสมิน จาก อลาดินกับตะเกียงวิเศษ (Aladdin)

เจ้าหญิงจัสมิน แห่งเมืองอักราบาห์ค่ะ ซึ่งต้นแบบของจัสมินเนี่ยมาจาก เจ้าหญิง Badroulbadour ค่ะ ซึ่งเนื้อเรื่องในนิทานเวอร์ชั่นออริจินอลเนี่ย เรื่อง Aladdin and his Wonderful Lamp เกิดขึ้นที่เมืองจีนค่ะ ไม่ใช่ที่ Middle East แต่ดิสนีย์คงยึดตามเรื่องหลัก One Thousand and One Nights หรือ อาหรับราตรี มากกว่า เลยแปลงร่างอลาดินและจัสมินมาอยู่ดินแดนทะเลทรายแทน

สำหรับชื่อ Jasmine ก็แปล ตรงตัวค่ะ ดอกมะลิ และจัสมินยังเป็นเจ้าหญิงจากทวีปเอเชียคนแรกที่ได้เข้า line-up Disney Princess มาตั้งแต่มีการก่อตั้งในปี ค.ศ.2000 ค่ะ

ถ้าสังเกตดีๆ เราจะเห็นจัสมินในเวอร์ชันภาพยนตร์สวมชุดสีฟ้าค่ะ แต่พอเข้ามาอยู่ใน line-up Disney Princess นางก็ถูกจับเปลี่ยนสีชุดค่ะ เพื่อไม่ให้สีซ้ำกับสีฟ้าของซินเดอเรลล่า ชุดนางเลยถูกเปลี่ยนเป็นสีเทอร์ควอยซ์หรือฟ้าอมเขียว เขียวอมฟ้าอะไรสักอย่าง

7. โพคาฮอนทัส จาก โพคาฮอนทัส (Pocahontas)

Pocahontas ค่ะ ตามเดิมแล้ว โพคาฮอนทัส ไม่อยู่ใน line-up ของ Disney Princess ตั้งแต่เริ่มแรก ทั้งๆที่การก่อตั้ง Disney Princess มีตั้งแต่ปีค.ศ. 2000 ซึ่งหลังจากปีที่โพคาฮอนทัสออกฉายครั้งแรกตั้ง 5 ปี อาจจะด้วยเพราะความเป็นชนเผ่า ไม่ถึงกับจะนับได้ว่าเปนราชวงศ์สักทีเดียว แต่สุดท้ายนางก็ได้เข้ากลุ่มค่ะ และคะแนนนิยมของนางก็มีไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว
โพคาฮอนทัส น่าสนใจมากค่ะ เนื่องจากเรื่องของโพคาศอนทัสเนี่ย ดิสนีย์ดัดแปลงมาจากชีวประวัติของ Matoaka ค่ะ ซึ่ง Matoaka เนี่ยเป็นตัวจักรสำคัญในการักษาสันติภาพระหว่างชาวอาณานิคมอังกฤษกับชนเผ่าอินเดียนแดง ได้เป็นผู้ช่วยชีวิตนักผจญภัยชาวอังกฤษชื่อ จอห์น สมิธ (John Smith) ที่กำลังจะถูกสำเร็จโทษโดยเผ่าของเธอเอง และเธอก็ได้พบรักกับเขา แต่ต่อมาจอห์น ก็ได้กลับไปอังกฤษ และเสียชีวิตลง ในปี พ.ศ. 2155 โพคาฮอนทัสได้เข้ารีตเป็นคริตส์ศาสนิกชนและได้รับการตั้งชื่อคริสเตียนว่า “รีเบคกา” เธอได้แต่งงานกับ “จอห์น โรล์ฟ (John Rolfe)” (พ.ศ. 2128-2165) เมื่อปี พ.ศ. 2157 ต่อมาในปี พ.ศ. 2159 โพคาฮอนทัสได้ติดตามสามีไปประเทศอังกฤษ และได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากราชวงศ์อังกฤษ แต่เธอได้เสียชีวิตลงด้วยโรคฝีดาษ

8. มู่หลาน จาก มู่หลาน (Mulan)

mulan มู่หลาน (อังกฤษ: Mulan) เป็นภาพยนตร์การ์ตูนลำดับที่ 36 ของดิสนีย์ กำกับโดย Tony Bancroft และ Barry Cook ดัดแปลงมาจากตำนานวีรสตรีของประเทศจีนที่มีที่มาจากบทกวีจีนชื่อว่า “บทเพลงของฟา มู่หลาน” กระบวนการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2537 เสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2541 และออกฉายตามโรงภาพยนตร์ในประเทศสหรัฐอเมริกาในวันที่ 19 มิถุนายน ปีเดียวกัน ส่วนในประเทศไทย ออกฉายในวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2541

9. เทียน่า จาก มหัศจรรย์มนต์รักเจ้าชายกบ (The Princess and the Frog)

หลังจากภาพยนตร์เรื่อง Mulan ในปี 1998 ผ่านพ้นไป ดิสนีย์ก็อยู่ในช่วงรุ่งเรืองอีกสองสามปี จนความดังของหนังการ์ตูนดิสนีย์ค่อยๆเบาบางลง และดิสนีย์เองก็ไม่ได้หันกลับไปทำหนังแนว fairy tale มานานมากแล้ว ดังนั้นในปี 2009 ดิสนีย์จึงออกภาพยนตร์แนวแฟรี่เทลเรื่องใหม่ โดยฝีมือของสองผู้กำกับ Ron Clements และ John Musker สองผู้กำกับผู้เคยกอบกู้ความรุ่งเรืองของดิสนีย์ให้กลับมาด้วยผลงานอย่าง The Little Mermaid และ Aladdin เป็นต้น
แต่คราวนี้ดิสนีย์ไม่ใช่แค่จับเอานิทานปรัมปราลงมาเป็นหนังเลย แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนทั้งตัวละคร สถานที่ และเนื้อเรื่อง เรียกได้ว่าแทบจะยกเครื่องเรื่อง เจ้าชายกบ ใหม่ทั้งหมด ดังนั้นเจ้าหญิงผิวสีคนแรกอย่าง เทียน่า จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา

เทียน่าเป็นเด็กสาวชาวเชื้อสายแอฟริกันที่มาเกิดในอเมริกา ในสังคมของทาสในสมัยนั้น ฐานะทางบ้านของเธอจึงไม่ค่อยดีมาก แต่เธอก็มีพ่อแม่ที่รักและดูแลเธอ คือ James และ Eudora โดย James พ่อของเทียน่ามีพรสวรรค์ในการทำอาหาร เขาจึงมักจะทำอาหารแจกให้เพื่อนบ้านเสมอ ส่วน Eudora เอง ก็มีฝีมือตัดเย็บที่ไม่แพ้ใคร เธอจึงได้งานตัดชุดให้ Lottie ลูกสาวของคุณ La’ Bouff ผู้มั่งคั่งในเมืองนิวออร์ลีนส์นั่นเอง

10. ราพันเซล จาก ราพันเซล เจ้าหญิงผมยาวกับโจรซ่าจอมแสบ (Tangled)

ราพันเซล disney เจ้าหญิงผมยาวกับโจรซ่าจอมแสบ (อังกฤษ: Tangled) เป็น ภาพยนตร์เพลงแนวตลกร้ายและเพ้อฝันสัญชาติอเมริกัน วอลต์ดิสนีย์แอนิเมชันสตูดิโอส์สร้างด้วยคอมพิวเตอร์แอนิเมชันเมื่อ พ.ศ. 2553 และเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันซึ่งฉายในโรงภาพยนตร์เป็นลำดับที่ 1 ของวอล์ดิสนีย์ มีเนื้อหาอิงเทวนิยายเยอรมันเรื่อง ราพันเซล (Rapunzel) ของพี่น้องกริม อย่างหยาบ ๆ และในภาคภาษาอังกฤษนั้น แมนดี มัวร์, ซาชารี เลวี และ ดอนนา เมอร์ฟีย์ ให้เสียงตัวละครเด่น ๆ 

เดิมชื่อภาษาอังกฤษของภาพยนตร์นี้คือ Rapunzel แต่ก่อนออกฉายเล็กน้อยได้เปลี่ยนเป็น Tangled ภาพยนตร์นี้ฉายในโรงภาพยนตร์ระบบสามมิติเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2553 ส่วนในประเทศไทย ฉายเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2554 นอกจากนี้เคยทำเป็นภาพยนตร์แอนิเมชัน บาร์บี้ ในชื่อตอนว่า Barbie as Rapunzel (บาร์บี้ เจ้าหญิงราพันเซล) เมื่อปี 2089 สร้างโดย แมทเทล และ ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ อินเตอร์เนชันแนล การจัดสร้างภาพยนตร์ใช้เวลาถึงหกปี และแอลเอไทมส์รายงานว่า ใช้ทุนไปราว ๆ สองร้อยหกสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ใช้จ่ายเงินไปมากที่สุดทีเดียว

11. เมอริดา จาก นักรบสาวหัวใจมหากาฬ (Brave)

เมอริดา (Merida) เธอเป็นเจ้าหญิงคนแรกจากภาพยนตร์ดิสนี่ย์ พิกซาร์ เรื่อง นักรบสาวหัวใจมหากาฬ (Brave) และเป็นเจ้าหญิงองค์แรกในบรรดา
ดิสนีย์ ปริ้นเซสที่ไม่ได้รับแรงบันดาลใจจากวรรณกรรม เช่น Snow White, Cinderella, ฯลฯ หรืออิงมาจากชีวิตจริง เช่น Pocahontas
Picture เมอริดาได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการจาก ดิสนี่ย์ให้เป็นเจ้าหญิงของดิสนีย์ (Disney Princess) องค์ที่ 11 ภาพลักษณ์ของเมอริดาเป็นสาวคล่องแคล่วปราดเปรียวและเป็นนักแม่นธนูผู้มีผมสีแดงสุดยุ่งเหยิง ในภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการนำเสนอประเด็นของ “ความกล้า” เป็นสำคัญ ผ่านทางคาแรคเตอร์ของเมอริดา ซึ่งเธอแสดงออกมาทั้งในเรื่องของความคิดและการกระทำที่สอดคล้องกับประเด็นหลักของหนัง
Picture
เมอริดา สาวน้อยผู้มีความรู้สึกรุนแรง เป็นลูกสาวหัวรั้นของกษัตริย์ ผู้พยายามจะควบคุมชะตากรรมของตัวเอง เธอรู้สึกสบายใจที่สุดเมื่อได้อยู่กลางแจ้ง ขัดเกลาฝีมือที่น่าทึ่งของเธอในฐานะนักธนูและนักดาบ และควบอังกัส ม้าผู้จงรักภักดีของเธอตามท้องทุ่งที่งดงามของแดนที่ราบสูง
Picture นอกจากนี้เมอริดายังมีจิตใจที่อ่อนโยน โดยเฉพาะกับน้องชายแฝดสามของเธอ ในฐานะลูกสาวของกษัตริย์และราชินี ชีวิตของเธอหนักอึ้งไปด้วยความ
รับผิดชอบและความคาดหวัง ทำให้เธอโหยหาวิธีที่จะคงไว้ซึ่งอิสรภาพและความพึ่งพาตัวเองได้ของเธอ เมื่อเมอริดาท้าทายขนบธรรมเนียมดั้งเดิม ผลการ
กระทำของเธอก็ก่อให้เกิดผลร้ายแรงต่ออาณาจักรของเธอ เธอจะต้องแข่งกับเวลาเพื่อแก้ไขพฤติกรรมที่หุนหันพลันแล่นของเธอ การเดินทางของเธอผลักดันให้เธอมองลึกเข้าไปข้างในเพื่อค้นพบความหมายที่แท้จริงของความกล้าหาญและเผยชะตากรรมที่แท้จริงของตัวเธอเอง

12. เอลซ่า จาก ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ (Frozen)

เอลซาแห่งเอเรนเดลล์ (อังกฤษ: Elsa of Arendelle) เป็นตัวละครที่ปรากฏตัวในภาพยนตร์ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ (2013) และผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ (ค.ศ. 2019) โดยภาคแรกให้เสียงโดยอิดีนา เมนเซล ส่วนอีวา เบลลาให้เสียงตอนวัยเด็กและ Spencer Ganus ให้เสียงตอนวัยรุ่น ในขณะที่ภาคสอง Mattea Conforti (ตอนช่วงแรกของภาพยนตร์) และเอวา เบลลา (เสียงที่บันทึกไว้) ให้เสียงเอลซาวัยเด็ก

คริส บักและเจนนิเฟอร์ ลี ผู้กำกับตัวละคร สร้างเธอจากชื่อเรื่องของตัวละคร (title character) ใน”ราชินีหิมะ” นิทานเดนมาร์กของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน ในภาพยนตร์ดิสนีย์ เธอเป็นเจ้าหญิงในอาณาจักรสแกนดิเนเวียสมมติที่มีชื่อว่า อาณาจักรเอเรนเดลล์ โดยเป็นทายาทหญิงของราชวงศ์และเป็นพี่สาวของอันนา (คริสเตน เบลล์) เอลซามีพลังวิเศษที่จะสร้างและจัดการน้ำแข็งและหิมะ โดยเธอทำให้เอเรนเดลล์ตกอยู่ในช่วงฤดูหนาวนิรันดร์ในพิธีครองราชย์ตอนเย็นโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งตอนแรกเธอพยายามควบคุมและปกปิดทักษะของเธอ และต่อมาปลดปล่อยตัวเธอจากความกลัวในการทำร้ายผู้อื่น โดยเฉพาะน้องสาวของเธอ

เอลซาได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่บวกจากผู้ชม โดยยกย่องถึงบุคลิกภาพและจุดอ่อนที่ซับซ้อน และเมนเซลยังถูกยกย่องในเรื่องการให้เสียง โดยเฉพาะในเพลง”เลตอิตโก”

13. อันนา จาก ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ (Frozen)

แอนนา (Anna) เจ้าหญิงน้อยผู้เป็นน้องสาวของเอลซ่า เธอเป็นเด็กที่ร่าเริง ช่างเพ้อฝันว่าสักวันจะได้พบกับรักแท้ เมื่อเอลซ่าหนีออกจากอาณาจักร เธอก็ต้องออกเดินทางไปตามหาเอลซ่าเพื่อกล่อมให้กลับอาณาจักร แต่เธอกลับโดนคำสาปน้ำแข็งของเอลซ่าโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้อันนาต้องคำสาป และต้องหาทางแก้

14. โมอาน่า จาก โมอาน่า ผจญภัยตำนานหมู่เกาะทะเลใต้ (Moana)

โมอาน่า เป็นนามของหญิงบุตรสาวหัวหน้าชนเผ่าบนเกาะโมโทนุย ซึ่งดิสนีย์ได้แรงบันดาลใจมาจากประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกทั้งมวล เธอได้รับเลือกจากมหาสมุทรให้ออกเดินทางไปกลางทะเลเพื่อช่วยกอบกู้ชนเผ่ากลับคืนจากอาถรรพ์ที่เกิดจาก มาวอิ ลูกครึ่งเทพเจ้าซึ่งก่อเรื่องเอาไว้มานานนับพันปี ความโดดเด่นของโมอาน่าคือ โครงสร้างทางหน้าตาและกายภาพของเธอคล้ายกับเจ้าหญิงดิสนีย์ในยุคหลังคือ คาแร็คเตอร์ต้นแบบมาจากราพันเซลและโฟรเซ่น แตกต่างตรงที่สีผิวเข้ม ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตและผมหยิก 

แม้จะมีหน้าตาคล้ายเจ้าหญิงหลายคนที่ผ่านมาของดิสนีย์ แต่โมอาน่ากลับมีความต่างชนิดที่แบบฉีกออกมาจากเจ้าหญิงดิสนีย์ในยุคก่อนที่เน้นเรื่องความรักกับเจ้าชาย แม้ในยุคหลังดิสนีย์จะเพลาๆประเด็นนี้ลงไปบ้างใน Frozen ที่สอดแทรกประเด็นความรักไว้เป็นส่วนหนึ่ง แต่สำหรับ โมอาน่า ดิสนีย์เลือกที่จะไม่แตะต้องประเด็นนี้เลย และใส่ความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว กระตืนรื้อร้น ชาญฉลาดและอารมณ์อ่อนไหวแบบเจ้าหญิงลงไปในส่วนที่ไม่ทำให้ตัวละครอ่อนแอหรือแข็งกระด้างเกินไป

โมอาน่า มีอารมณ์ความเป็นเจ้าหญิงแกร่งคล้ายๆกับเมอริด้า เจ้าหญิงของพิกซ่าร์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เจ้าหญิงควรจะเป็น ไม่ใช่การเฝ้าตามหาแต่รักแท้ที่เกิดขึ้นราวปาฏิหาริย์นั่นคือสิ่งที่ดิสนีย์อยากสื่อสารกับคนดูว่า ชีวิตมันไม่ได้มีแต่เรื่องความรัก ยังมีเรื่องอื่นๆที่เป็นประเด็นให้กับการ์ตูนได้อีก ถือว่าเป็นการก้าวสู่ยุคใหม่ของเจ้าหญิงดิสนีย์อย่างเต็มตัว ชื่อ เจ้า หญิง ดิสนีย์ ทั้งหมด

บทความที่น่าสนใจ