Table of Contents

บทความที่เกี่ยวข้อง

โพคาฮอนทัส ประวัติ

ข้อมูลพื้นฐาน โพคาฮอนทัส ปรากฎตัวครั้งแรก: Pocahontas 1995 อายุ: ไม่แน่ใจค่ะ แต่คิดว่าน่าจะประมาณ 16-17 ปี ฐานะในการเป็นเจ้าหญิง: สายเลือด(พ่อเป็นหัวหน้าเผ่า) สัญชาติ : Powhatan

Read More »

เทียน่า ประวัติ

ข้อมูลพื้นฐาน เทียน่า ปรากฎตัวครั้งแรก: The Princess and the frog 2009 อายุ: 19 ปี ฐานะในการเป็นเจ้าหญิง: อภิเษกสมรส สัญชาติ

Read More »

รายชื่อเจ้าหญิงดิสนีย์

รายชื่อเจ้าหญิงดิสนีย์ ดิสนี่ย์ ปริ๊นเซส (อังกฤษ: Disney princess) เป็นสาขาหนึ่งที่แบ่งย่อยออกมาจาก บริษัท วอลท์ ดิสนี่ย์ ที่รวบรวมเอาตัวการ์ตูนเจ้าหญิงที่โด่งดังเอาไว้ ได้แก่ สโนว์ไวท์, ซินเดอเรลล่า, ออโรร่า,

Read More »

mulan มู่หลาน

mulan มู่หลาน ย้อนกลับไปปี 1998 ดิสนีย์ได้พยายามเจาะตลาดเอเซียด้วยแอนิเมชันที่หยิบตำนานวีรสตรีของจีนอย่าง ฮัวมู่หลาน มาดัดแปลงจัดแต่งมันภายใต้รูปแบบดิสนีย์นิยมที่มาเต็มทั้งสัตว์พูดได้ มุกตลกแบบการ์ตูนและความเวียร์ดถึงขั้นมีมังกรที่รูปร่างเหมือนกิ้งก่าพูดได้มาคอยเป็นผู้ช่วยของมู่หลาน ซึ่งแน่นอนล่ะว่ามันก็สร้างความไม่พอใจกับคนจีนจนล้มเหลวด้านรายได้ตอนออกฉาย

แต่สำหรับตลาดแอนิเมชันโลกโดยเฉพาะเอเซียมันกลับสร้างความนิยมให้กับเด็ก ๆ ในยุคนั้น ลามไปถึงปรากฎการณ์สำคัญคือมันได้กลาย “การ์ตูนตัวแม่” สำหรับบรรดากะเทยด้วยเพลง Reflection ที่ส่งเหลือเกินกับเนื้อหาการปิดบังตัวตน และพลอยส่งให้ชื่อของคริสตินา อากีเลราดังเป็นพลุแตกในฐานะคนร้องเพลงนี้ (และแม่ของเหล่ากะเทย) และสำหรับผมเองความทรงจำเดียวที่มีต่อ MULAN เวอร์ชันนั้นก็แค่เพลงนี้นี่แหละครับ 555

แต่กระนั้นในปี 2020 นี้ ดิสนีย์คงตระหนักได้จากการทดลองเอาของเก่ามาหากิน เอ้ย ! ดัดแปลงแอนิเมชันให้กลายเป๋็นหนังคนแสดงหรือเรียกหรู ๆ ว่าไลฟ์แอ็กชัน (Live Action) ทั้ง The Jungle Book, Aladdin และ The Lion King โกยเงินเข้ากระเป๋าได้แบบไม่ต้องคิดเยอะเลยว่าแอนิเมชันอย่าง MULAN เองก็ไม่ยากนี่หว่าที่จะเอามาทำเป็นหนังคนแสดงเรื่องต่อไปแต่อนิจจาตัวหนังก็ดันสร้างประวัติศาสตร์ในตัวมันเองแบบไม่ตั้งใจเสียด้วย ทั้งหลิวอี้เฟยที่ออกมาโพสต์สนับสนุนให้ตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วงในฮ่องกงจนเกิดกระแสแบนหนังในประเทศต่าง ๆ และการตัดสินใจของดิสนีย์ที่เอาหนังลงสตรีมมิงแทนการออกฉายที่อเมริกา แอเรียล the little mermaid

กลับมาที่หนังกันดีกว่า..แน่นอนว่า MULAN ตามชื่อเรื่องก็คือฮัวมู่หลาน(หลิวอี้เฟย)ที่ลอบปลอมตัวเป็นชายออกรบแทนฮัวโจว(จื่อมา)บิดาแก่ชราในศึกเพื่อปกป้องประเทศและราชบัลลังก์ของฮ่องเต้ (เจ็ตลี หรือ หลี่เหลียนเจี๋ย)จากบอริข่าน(เจสัน สก็อต ลี)ที่มีเซียนเหนียง (กงลี่) แม่มดอาคมแก่กล้าที่สามารถแปลงร่างเป็นเหยี่ยวดำที่กรีฑาทัพไปที่ใดก็มีแต่ความตาย จนมู่หลานและเหล่าทหารภายใต้การฝึกของผู้การถัง(ดอนนี เยนหรือเจิ้งจือตัน) ต้องต้านทัพของศัตรูตัวฉกาจก่อนจีนจะสิ้นแผ่นดิน

จากตัวอย่างหนังเราคงพอได้เห็นแล้วว่าฉบับไลฟ์แอ็กชันนี้จะเน้นความสมจริงและการออกแบบฉากต่อสู้ให้ดูตื่นตาและไม่ทิ้งความแฟนตาซีเพื่อความตื่นใจ แต่การหยิบเอาตำนานจีนที่เป็นที่รู้จักกลับมาเล่าโดยมีโจทย์ค้ำคอคือต้องคงโทนแบบดิสนีย์อยู่ก็นับว่าท้าท้ายทีมงานไม่น้อยโดยเฉพาะทีมเขียนบท 1 ชาย 3 หญิงที่ไม่ได้มีเชื่อสายจีนเลยสักคน ซึ่งผลลัพธ์ก็น่าทึ่งไม่น้อยเลยกับการถักทอและพาเรื่องราวของมู่หลานมาไกลกว่าฉบับแอนิเมชันมาก ๆ

โดยคงไว้ซึ่งฉากสำคัญ ๆ ของฉบับแอนิเมชันแต่นำมาตีความใหม่ให้เหมาะกับฉบับหนังซึ่งส่วนตัวมองว่าดีกว่าการตามการ์ตูนจนเป๋เหมือน The Lion King ที่ผ่านมาซึ่งตัวหนังเปลี่ยนรายละเอียดทั้งชื่อตัวละครตัดประเด็นโรแมนติกระหว่างมู่หลานกับนายกองออก และแน่นอนตัดมูซูมังกรแดงพูดได้ออก ยังมีคิวบู๊ที่น่าประทับใจประหนึ่งทีมสตันท์ได้ดูเดชคัมภีร์เทวดาของเฉินเสี่ยวตงแล้วมาลองเล่นกันดูเพราะมันทั้งพิสดารและชวนตื่นตาจนมู่หลานฉบับนี้ไม่ต่างจากหนังกำลังภายใน ที่สำคัญบทหนังยังปูพื้นวัฒนธรรมจีนได้อย่างเข้าอกเข้าใจและไม่ขัดความรู้สึกผมในฐานะที่มีเชื้อสายจีนคนหนึ่ง

โดยเฉพาะการสำรวจผู้หญิงในวัฒนธรรมจีนที่เกียรติยศสูงสุดต่อครอบครัวคือการออกเรือนซึ่งแม้จุดนี้ฉบับแอนิเมชันจะมีการเอ่ยถึงมาแล้วแต่สำหรับฉบับหนังก็มีการเพิ่มรายละเอียดที่น่าสนใจโดยเฉพาะการเปิดเรื่องที่มู่หลานตอนเด็กกำลังวิ่งไล่จับไก่และเผลอแสดงลมปราณออกมาจนพ่อต้องขอให้เธอเก็บพลังของเธอไว้เป็นความลับเพื่อให้เติบโตในฐานะบุตรีที่จะออกเรือนกับชายหนุ่มในอนาคต

ซึ่งถือเป็นการสร้างซีนเปิดเรื่องที่ชาญฉลาดอย่างยิ่งและตลอดเรื่องก็จะมีประโยคที่เธอถูกพูดใส่ตลอดนั่นคือ Know Your Place หรือ การวางตนให้เหมาะสมซึ่งเป็นกรอบธรรมเนียมวัฒนธรรมจีนที่กดผู้หญิงให้ไม่มีทางเลือกในชีวิตมากนักและในขณะเดียวกันซีนเปิดเรื่องนี้ยังช่วยอุดรูรั่วให้กับประเด็นความเก่งกาจของมู่หลานในฉบับหนังที่ไร้ซึ่งมังกรแดงพูดได้อย่างมูซูมาช่วย (แต่มีนกฟีนิกซ์ประจำตระกูลที่บินโฉบมาจากไหนไม่รู้แทน 555) ราพันเซล disney

กระนั้นแล้วก็ใช่ว่าตัวหนังจะเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดหรือมาการเมืองจ๋านะครับตรงกันข้ามเลยเพราะแม้งานกำกับของนิกิ คาโรจะยังคงความเฟมินิสต์เหมือนหนังชิงออสการ์ของเธอทั้ง Whale Rider (2002) และ North Country (2005) จนทำให้มู่หลานเวอร์ชันนี้มีคาแรกเตอร์ที่ดูแข็งแรงและเปี่ยมพลังหญิงแค่ไหนก็ตาม แต่เธอก็ยังคงทำให้หนังอยู่ในบล็อกของดิสนีย์ได้อย่างไม่ขัดเขินแถมยังทำให้หน้าหนังที่คนจีนมาพูดฝรั่งเรื่องนี้รอดจากความเสร่อได้อย่างไม่น่าเชื่อ

โดยเฉพาะการเน้นย้ำประเด็นที่อยู่ในบทอย่าง Royal Brave and True หรือความภักดี หาญกล้าและสัตย์จริง โดย นิกิ คาโร สามารถตีความมันมาเล่าเรื่องราวการเปลี่ยนผ่านของมู่หลานได้อย่างหนักแน่นโดยเฉพาะการแสดงของหลิวอี้เฟยที่เชื่อว่าน่าจะถูกกำกับอย่างหนักหน่วงจนบทดราม่าและซีนบู๊ดูไม่ขัดเขินเลย ที่สำคัญคือฉากแอ็กชันในหนังดูแล้วแทบไม่เชื่อว่ามาจากทั้งผู้กำกับหญิงอย่าง นิกิ คาโร และ ตากล้องหญิงอย่าง แมนดี วอล์กเกอร์ เพราะออกมาตื่นตาตื่นใจมากใครเป็นคอหนังกำลังภายในนี่มีฟินแน่นอน

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คืองานดนตรีประกอบโดย แฮรี เกร็กสัน วิลเลียมส์ ที่ใช้การตีความจากหนังมาทำเพลงได้อย่างยอดเยี่ยม น่าจะเป็นหนึ่งในสกอร์ที่ดีที่สุดของปีนี้ได้เลย และโดยเฉพาะโจทย์นึงที่แฟน ๆ ของ MULAN คิดว่าพลาดไม่ได้อย่างการตีความเพลง Reflection ให้ออกมาต่างจากแบบมิวสิคัลเหมือนในแอนิเมชัน ก็บอกเลยว่าสกอร์ของเขาเมื่อปรากฎในจังหวะหนังที่ใช่มันทรงพลังมาก ๆ ครับรับรองไม่ผิดหวัง

ทิ้งท้ายรีวิวคงไม่มีอะไรมากนอกจากรู้สึกว่าเมืองไทยโชคดีมากที่ดิสนีย์ประเทศไทยตัดสินใจเอาหนังเข้าฉายโรงเพราะตัวหนังถูกออกแบบมาให้ดูในโรงจริง ๆ ที่สำคัญคือหนังเองก็รวมดาราเอเซียคนสำคัญไว้นอกจากหลิวอี้เฟยแล้วก็ยัง เจิ้งจือตัน หรือ ดอนนี่ เยน ที่ดังจากหนังปรมาจารย์ยิป มัน หรือจะเป็น กงลี่ สาวสวยสองพันปีในบทแม่มดที่ปังมากฟาดมาก และที่โดนใจเด็กยุค 90s มากแต่อาจต้องขยี้ตาหน่อยคือการปรากฎตัวของ หลี่เหลียนเจี๋ย หรือ เจ็ต ลี ในบทฮ่องเต้ที่หน้าตาดูชราไปเยอะแต่ยังคงรัศมีดาราใหญ่อยู่ สรุปง่าย ๆ คือ MULAN ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ ครับ mulan มู่หลาน